Wednesday, September 30, 2015

ผ่าตัด เสริมหน้าอกสวย โดย โดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ศัลยกรราม เสริมหน้าอก โดย หมอไกรวิชญ์ 

วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอก

ในปัจจุบันนี้ทางการแพทย์ก้าวหน้ามากเกี่ยวกับการศัลยกรรม แผลเหล่านั้นจะหายไปได้โดยไร้ร่องเลยทีเดียว และอีกวิธีสำหรับการเสริมหน้าอกที่มีบาดแผลเช่นกัน แต่อยู่ตรงที่เป็นจุดซ่อนเร้น มองไม่ดีก็ไม่สามารถพบเจอได้ง่ายๆ เลยล่ะ

การผ่าตัดเสริมหน้าอกตามแนวฐานเต้านม วิธีนี้อาจจะทิ้งร่องรอยการผ่าตัดเอาไว้ และค่อนข้างจะเห็นได้ชัดเมื่อคุณนอนหงาย ซึ่งข้อดีของการผ่าตัดแบบนี้ก็คือ เป็นวิธีที่แพทย์จะใส่อุปกรณ์เข้าไปในเต้านมได้ง่ายและตรงที่สุด 

วิธีการผ่าตัดบริเวณรักแร้  วิธีนี้มีข้อดีก็คือจะไม่มีแผลผ่าตัดเกิดขึ้นบริเวณเต้านมเลย การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้ค่อนข้างทำได้ยาก เพราะว่าเต้านมกับรักแร้อยู่ไกลกันต้องใช้อุปกรณ์เสริมช่วยเยอะ จึงอาจจะทำให้มีข้อเสียตามมา อย่างเช่นการใส่อุปกรณ์ได้ไม่ตรงกับความต้องการ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และฝีมือของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วย ก่อนผ่าตัดด้วยวิธีนี้ก็ลองปรึกษาแพทย์ดูก่อนนะคะ

วิธีการสุดท้ายก็คือการผ่าตัดตรงบริเวณปานนม วิธีนี้จะดีกว่าวิธีแรกและมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะว่ามีการผ่าตัดเกิดขึ้นตรงเต้านมเลย อีกทั้งหลังการผ่าตัดก็จะมีแผลเกิดขึ้นน้อยมาก วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากกว่าทั้งสองวิธีที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

การผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีอันตรายหากว่าทำตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด ดังนั้นก่อนที่ท่านจะเข้าสู่กระบวนการผ่าตัดหรือกำลังคิดว่าจะอยากจะทำการเสริมหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น ท่านก็ควรจะทราบเกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อที่จะได้ทำตัวได้ถูกต้องก่อนทำการผ่าตัดบ้าง บางทีแต่ละคลินิกอาจจะมีคำแนะนำก่อนการผ่าตัดที่ไม่เหมือนกัน ถึงตอนนั้นคุณคงจะได้ปรึกษากับแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดและได้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเตรียมตัวมาอย่างแน่นอน วิธีการสุดท้ายก็คือการผ่าตัดตรงบริเวณปานนม วิธีนี้จะดีกว่าวิธีแรกและมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะว่ามีการผ่าตัดเกิดขึ้นตรงเต้านมเลย อีกทั้งหลังการผ่าตัดก็จะมีแผลเกิดขึ้นน้อยมาก วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากกว่าทั้งสองวิธีที่กล่าวไปแล้วข้างต้น

การผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีอันตรายหากว่าทำตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด ดังนั้นก่อนที่ท่านจะเข้าสู่กระบวนการผ่าตัดหรือกำลังคิดว่าจะอยากจะทำการเสริมหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น ท่านก็ควรจะทราบเกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อที่จะได้ทำตัวได้ถูกต้องก่อนทำการผ่าตัดบ้าง บางทีแต่ละคลินิกอาจจะมีคำแนะนำก่อนการผ่าตัดที่ไม่เหมือนกัน ถึงตอนนั้นคุณคงจะได้ปรึกษากับแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดและได้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเตรียมตัวมาอย่างแน่นอน


สอบถามลายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 
LINE ID nooksan
Tel. 097-232-9222




 เสริมหน้าอก

เสริมหน้าอกขนาด 360 CC



Tuesday, September 29, 2015

ปัญหาการทำ ”ศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด” หากเจอแพทย์ไม่เชี่ยวชาญจากที่อยากสวยกลายเป็นหายนะไปตลอดชีวิต!

ปัญหาการทำ”ศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด” Open Rhinoplasty Gong Wrong หากเจอแพทย์ไม่เชี่ยวชาญจากที่อยากสวยกลายเป็นหายนะไปตลอดชีวิต!

การผ่าตัดศัลยกรรมนั้น หลายต่อหลายคนก็มักจะนึกถึงการทำศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นอย่างแรก และเรียกได้ว่าเป็นการทำศัลยกรรมที่หลายคนนั้นนิยมกันมากที่สุด ซึ่งตอนนี้คลินิกเสริม


 เสริมจมูก

โดยนายแพทย์สุรเวช น้ำหอม ศัลยแพทย์ชื่อดังได้ออกมาโพสต์เรื่องราวปัญหา และหายนะของผู้ป่วยที่ประสบปัญหาจากการทำศัลยกรรมเสริมจมูกแบบเปิด และไม่สามารถทำการรักษาแก้ไขความผิดพลาดได้ จากที่เคยอยากสวยทำให้หลายๆ คนต้องตกอยู่กับความทุกข์ทรมานและหายนะไปตลอดชีวิต เพราะจะกลายเป็นเสียโฉมไปอีกนาน โดยคุณหมอสุรเวช น้ำหอม ได้โพสต์ข้อความเอาไว้ว่า …

“หายนะจากการทำจมูกแบบเปิดนั้นมีจริง! ปกติการผ่าตัดทำจมูกนั้นถือว่าเป็นการผ่าตัดที่ไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะการทำจมูกโดยวิธีOpenหรือแบบเปิดปลายจมูก เพราะหากทำไม่ดีผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะแย่กว่าเดิมและทำใหเกิดความเสียหายที่แก้ไขไม่ได้ด้วย

การทำจมูกแบบเปิดนั้น หมอที่ทำควรจะเป็นหมอที่ได้รับการฝึกอบรมทางศัลยกรรมอย่างถูกต้อง ซึ่งจะใช้เวลาถึง5ปี เพราะต้องศึกษาอย่างละเอียด ทั้งทางความรู้พื้นฐานและเทคนิคการผ่าตัด ต้องสามารถแก้ไขปัญหาจมูกได้ทุกรูปแบบ ต้องรู้ว่าจมูกแบบไหนต้องทำอย่างไร อะไรที่ไม่ควรทำ และต้องมีอาจารย์ที่มีประสบการณ์สั่งสอน

ในปัจจุบันตามคลินิกมีหมอทั่วไปที่ไม่ได้มีทักษะทางการผ่าตัดเลย อาศัยอยากทำก็ไปอบรมระยะสั้นอาจจะในประเทศหรือต่างประเทศซึ่งที่นิยมกันคือที่เกาหลี เวลาไปก็อาจจะสัปดาห์ถึงสองสัปดาห์ บางคนแค่สองสามวันด้วยซ้ำแล้วก็มาหัดผ่าตัดกับคนไข้เลย การหาคนไข้ก็ไม่ยาก อาจจะไปให้หาเคสที่ทำสวยๆโดยหมอที่ทำเป็นแล้วก็เอามารีวิวให้คนไข้หลงเชื่อ แต่เนื่องจากหมอไม่ชำนาญจริง พอเจอเคสที่ไม่ตรงไปตรงมาก็จะทำไม่ได้….แต่น่าแปลกที่หมอพวกนี้มักใจกล้า ฝืนทำทั้งที่ทำไม่เป็น ผลออกมาก็คือหายนะดีดีนี่เอง

หมอเจอเคสมีปัญหาเหล่านี้มากมาย บางคนแก้ไขอะไรแทบไม่ได้ บางคนแก้มา 3-4 รอบ ก็ได้แต่สงสารและต้องมาพยายามให้ความรู้คนไข้ทางเพจนี้ต่อไป อย่างน้อยจะทำกับหมอไหนลองเช็ครายชื่อกับ website แพทยสภานิดนึงว่าหมอคนนั้นจบอะไรมา เชี่ยวชาญด้านไหนนะครับ” 

 เสริมจมูก

“ปัญหาจากการทำจมูกแบบเปิดตอนนี้พบได้มากขึ้นกว่าเดิมมาก คงเป็นเพราะมีหมอตามคลินิกไปดูงานที่เกาหลีแล้วนึกว่าง่าย เลยมาหัดทำกับคนไข้ แต่เนื่องจากไม่มีพื้นฐานที่ดีพอ เคสจึงหลุดเยอะ การผ่าตัดแบบเปิดปลายนั้นมีข้อดีมากก็จริง แต่เป็นหัตถการที่ทำค่อนข้างยากและเวลาเกิดปัญหาจะแก้ยากมากเพราะเนื้อแกนกลางจมูกจะจะเสียหายเป็นผลให้เกิดการหดตัวดึงรั้งทำให้เกิดการผิดรูป ดังนั้นหากคิดจะทำจมูกแบบโอเพ่นแล้ว ต้องเช็คประวัติหมอให้ละเอียดเลยทีเดียวครับ ชนิดทีไม่ได้ฝึกอบรมมาอย่างถูกต้อง มีแต่ดูงานสั้นๆที่เกาหลีนี่ สมควรต้องหลีกหนีให้ไกลเลยจะดีกว่าครับ ที่สำคัญคืออย่าหลงเชื่อรีวิวเคสสวยแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ”

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆ เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมเสริมจมูกที่ทางโดดเด่นมักจะย้ำบ่อยๆ ว่า อย่ามัวแต่ดูรีวิวสวยๆ และโปรโมชั่นราคาถูกเพียงเท่านั้น ควรที่จะอ่านรีวิว และหาข้อมูลให้เยอะๆ พยายามปรึกษากับแพทย์ให้เกิดความมั่นใจ อย่าตกเป็นทาสการตลาดแต่เพียงเท่านั้น เพราะถ้าทำไปแล้ว เกิดปัญหาขึ้น คนที่แย่ไม่ใช่ใคร ก็ตัวเราเองนั่นล่ะค่ะ ด้วยความปรารถนาดีจากโดดเด่นดอทคอมนะคะ!


Wednesday, September 16, 2015

ศัลยกรรมเสริมจมูก ควรเลือกซิลิโคนเสริมจมูกแบบไหนที่เหมาะกับเรา ?

ศัลยกรรมเสริมจมูก ควรเลือกซิลิโคนเสริมจมูกแบบไหน?
  
ซิลิโคนแท่งที่ใช้ในการเสริมจมูก

ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ซิลิโคนสำเร็จรูป กับซิลิโคนชนิดเหลาเอง ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

1. ประเภทซิลิโคนสำเร็จรูป

คือ ซิลิโคนที่ถูกขึ้นรูปเป็นรูปร่างสำเร็จที่พร้อมจะใส่ ผลิตมาจากโรงงาน มีขนาดความกว้างและยาวที่แตกต่างกัน ก่อนทำการเสริมจมูกให้คนไข้ด้วยซิลิโคนสำเร็จรูป

แพทย์อาจปรับแต่งรูปทรงของซิลิโคนอีกเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับโครงจมูก ของคนไข้แต่ละราย ซึ่งมีข้อดีคือ ได้รูปทรงที่แน่นอน โอกาสเอียงมีน้อยมาก และเนื้อซิลิโคนที่มีให้เลือก ความแข็ง-นิ่มได้หลายเกรด
https://www.facebook.com/surgerybeautyperfect/photos/a.692663757511126.1073741828.692657034178465/777914718986029/?type=1&theater

2. ประเภทซิลิโคนที่เหลาเอง

คือ ซิลิโคนที่เป็นแผ่นใหญ่ ๆ แล้วนำมาเหลาเองให้เหมาะกับรูปจมูกของคนไข้ มีข้อดีก็คือ สามารถเหลาปรับรูปทรงให้เหมาะสม กับโครงจมูกคนไข้แต่ละรายได้

สามารถควบคุมรูปร่างทรงจมูกได้ดี ด้วยการเหลาตกแต่ง ไม่ว่าจะต้องการโด่งมากน้อยแค่ไหน บริเวณปลายจมูกจะให้เป็นอย่างไร เช่น การทำปลายจมูกทรงหยดน้ำ


ควรจะเลือกซิลิโคนทำจากประเทศไหนดี ?

1. ซิลิโคนเสริมจมูกของประเทศญี่ปุ่น (Japan Silicone) เป็นซิลิโคนมาตรฐานธรรมดา โดยวัตถุดิบบางตัวได้นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น และได้นำมาผลิตในประเทศไทย เป็นซิลิโคนที่ออกลักษณะเป็นสีเหลือง ลักษณะของ ซิลิโคนจะมีลักษณะค่อนข้างแข็ง

2. ซิลิโคนเสริมจมูกของประเทศอเมริกา (USA Silicone) เป็น ซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ มีความบริสุทธิ์ถึง 100% มีความปลอดภัยและคุณภาพดี (Medical Grade Silicone) เป็นซิลิโคนสีขาว มีเนื้อซิลิโคนที่นิ่ม เนียน ละเอียดมาก และมีความยืดหยุ่นได้ดีกว่า ซิลิโคนของประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งเป็น ซิลิโคนเสริมจมูกที่นิยมเลือกใช้กันมากที่สุด เนื่องจากเนื้อของซิลิโคนมีความนิ่มปานกลาง และไม่นิ่มจนเกินไป สามารถเหลาปรับแต่งรูปทรงได้ตามต้องการได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อบริเวณของสันจมูกค่อนข้างมาก หรือคนที่มีโครงจมูกที่ยาว

หลังจากเสริมจมูกด้วยซิลิโคนของประเทศอเมริกาแล้ว นอกจากจะทำให้ จมูกดูโด่งสวยเนียน และยังไม่มีโอกาสที่จะยุบตัวลง เมื่อเสริมไปนาน ๆ อีกด้วย

3. ซิลิโคนเสริมจมูกของประเทศเกาหลี (Korea Silicone) เป็น ซิลิโคนสำเร็จรูป แบบมาตรฐานพิเศษ คือ ช่วงโคนจมูกและปลายจมูกจะ มีความนิ่มมาก ๆ มีความยืดหยุ่นตัวสูง ไม่มีโอกาสจะทะลุและเอียงได้เลย

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการได้จมูกหลังเสริมออกมาให้ เป็นธรรมชาติมากที่สุด แบบสไตล์เกาหลี คือไม่โด่งมากนัก และด้วยความนิ่มมากของซิลิโคนประเภทนี้ ทำให้ สามารถบิดหรืองอจมูกได้ง่าย ทำให้ออกมาได้เหมือน เป็นจมูกที่เป็นธรรมชาติจริง ๆ

Wednesday, September 9, 2015

ศัลยกรรมปากบาง และ ปากกระจับ & Lip Surgery or Reduction

Lip Surgery or Reduction
ศัลยกรรมปากบาง และ ปากกระจับ



การศัลยกรรมปาก ช่วยตกแต่งริมฝีปากบนที่ค่อนข้างหนา หรือแก้ไขปากที่มีรูปทรงไม่สวยงาม ให้ดูน่ารักมีกระจับเป็นรอยหยักที่ดูเซ็กซี่มีเสน่ห์ ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ดูเย้ายวนเซ็กซี่น่าหลงใหล ใช้เวลาทำน้อย ค่าใช้จ่ายไม่สูง ซึ่งริมฝีปากที่สวยนั้น ริมฝีปากบนจะต้องบางกว่าริมฝีปากล่างครึ่งหนึ่ง ปากจะต้องเป็นทรงกระจับ ทำให้รูปปากดูเข้ากับรูปหน้า การศัลยกรรมปากต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญ เนื่องจากต้องใช้ความประณีตและฝีมืออย่างมากเนื่องจากมีความละเอียดอ่อนมากเนื่องจากบริเวณปากมีเส้นประสาทและเลือดมาหล่อเลี้ยงจำนวนมาก

ขั้นตอนการผ่าตัดริมฝีปาก

ขั้นตอนการผ่าตัดริมฝีปากทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง

1. แพทย์จะเริ่มด้วยการฉีดยาชาในบริเวณรอบริมฝีปาก และยานอนหลับชนิดอ่อนเพื่อลดอาการเจ็บและลดความกังวล
2. แพทย์ระเริ่มตัดริมฝีปากที่เป็นส่วนเกินไปตามแนวของริมฝีปากทำให้ปากบาง
3. เย็บด้วยไหมละลายตามแนวที่ตัดไปโดยรอยไหมจะถูกซ่อนไว้ด้านในเหมือนแผลหายไหมก็จะหายไปเนื่องจากเป็นไหมละลาย

การดูแลรักจากผ่าตัดริมฝีปาก

1. ในช่วง 3 วันแรกควรนอนหมอนสูงเพื่อบรรเทาอาการปวด
2. ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ
3. บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดบ่อยๆ การบ้วนปากนั้นจะช่วยสมานแผลและเป็นการล้างแผลไปด้วยในตัว
4. ห้ามรับประทานอาหารรสจัด
5. เมื่อแผลแห้งสนิทให้ทำการนวดปาก โดยการใช้นิ้วคลึงเพื่อลดการตึงของแผล
6. ขยันทาลิปมันเพื่อให้ปากชุ่มชื่นตลอดเวลา
7. ช่วงเวลา 1 เดือนอย่าฉีกยิ้มบ่อยเพื่อกันแผลฉีก
8. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกระทบกระเทือนทุกชนิดเป็นเวลา 2 อาทิตย์

หลังจากที่ทำการศัลยกรรมมาจะเกิดบาดแผลของรอยผ่าตัด และรอยเย็บต่าง ๆ ซึ่งการทำศัลยกรรมปากกระจับนี้ก็เช่นเดียวกัน คือ หลังจากที่ทำศัลยกรรมใน 1-3 วันแรก ปากจะค่อนข้างบวมช้ำและแดง จึงทำให้ปากมีขนาดใหญ่มากกว่าปกติ เนื่องจากยังมีอาการอักเสบของฝีเย็บบริเวณริมฝีปากอยู่ และจากนั้นเมื่อผ่านไป 1-2 สัปดาห์ อาการบวมและอักเสบของริมฝีปากจะค่อย ๆ ลดลงจนเป็นปกติและสวยงามเป็นทรงประจับในที่สุด จำเป็นจะต้องดูแลรักษาอย่างถูกต้องและถูกวิธี ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

- ประคบเย็นอย่างต่อเนื่องใน 3 วันแรกและให้พักผ่อนให้มากที่สุด ด้วยการนอนหนุนหมอนสูง จากนั้นจึงนำผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งประคบบริเวณรอบปากหรือช่วงแก้ม หลีกเลี่ยงการประคบบริเวณรอยแผล เพื่อป้องกันอาการบวมที่อาจเกิดขึ้นได้

- รักษาความสะอาดบริเวณริมฝีปากและช่องปากอยู่เสมอ ด้วยการแปรงฟันอย่างเบามือ หรือใช้น้ำเกลือแทนน้ำยาบ้วนปากเมื่อรับประทานอาหารเสร็จทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เศษอาหารตกค้างสะสมจนทำให้แผลติดเชื้อ

- งดกิจกรรมที่จะทำให้แผลกระทบกระเทือน เช่น การขยับริมฝีปากกว้าง พูด หรือหัวเราะมากจนเกินไป การสัมผัสจับริมฝีปาก การเคี้ยวอาหารที่มีความแข็งและเหนียว เล่นกีฬา และที่สำคัญยังควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 1-2 เดือนอีกด้วย

- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และทำตามคำแนะนำของแพทย์ให้ครบและหมดภายในระยะเวลาที่ได้กำหนด

ข้อดี-ข้อเสีย ของแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกแต่ละตำแหน่ง mammoplasty incision


ข้อดี-ข้อเสีย ของแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกแต่ละตำแหน่ง



ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสัปดาห์แรกที่ผมใส่ถุงซิลิโคนแบบหยดน้ำมากกว่าแบบทรงกลม และเป็นครั้งแรกที่มีคนไข้ใช้ถุงหยดน้ำทรงต่ำ และ เป็นครั้งแรกที่มีคนไข้มาจาก เอสโตเนีย และอิหร่าน เพิ่มสถิติจำนวนประเทศให้ผมมากขึ้น
เรื่องถุงซิลิโคนแบบหยดน้ำนี่วันหลังจะมาเขียนให้อ่านกันค่ะ รายละเอียดเยอะมาก


วันนี้จะมาเล่าเรื่องแผลเสริมหน้าอก แผลผ่าตัดมี 4 ตำแหน่งค่ะ คือ รักแร้ ใต้ราวนม รอบปานนม และ สะดือ
อันที่ไม่เป็นที่นิยม หรือที่คนไม่ค่อยทำก็คือแผลสะดือค่ะ เพราะ ต้องส่องกล้องและใช้ได้เฉพาะกับถุงน้ำเกลือเท่านั้น
ส่วนอีกสามตำแหน่งก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน ความยากง่ายก็ไม่ต่างกันเท่าไร

-แผลรอบปานนม จะมีข้อเสียก็คือ โอกาสชาที่หัวนมจะสูงหน่อย และอาจจะต้องตัดผ่านเนื้อเต้านม ซึ่งในเนื้อเต้านมมักมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ทำให้โอกาสเกิดติดเชื้อ และพังพืดรัดถุงซิลิโคนสูงขึ้นมานิดนึง แต่ข้อดีคือปกปิดแผลได้ดีครับ พวกนางแบบที่ต้องโชว์หน้าอก โชว์รักแร้มักจะชอบแผลนี้

-แผลใต้ราวนม เป็นแผลที่จะว่าไปง่ายที่สุด เพราะแผลลงตำแหน่งผ่าตัดเลย เวลาเลาะโพรงก็ไม่ต้องผ่านเนื้อเต้านม ดังนั้นค่อยข้างสะอาด การฟื้นตัวเร็ว บวมน้อย ช้ำน้อยเพราะจี้หยุดเลือดได้ง่าย มีข้อเสียอย่างเดียวคือแผลเป็นใต้ราวนมถ้ามีการนูนหรือเป็นคีลอยด์จะเห็นชัดมาก แต่โอกาสเป็นแผลนูนนั้นน้อยมากค่ะ โดยเฉพาะฝรั่ง หรือ คนผิวขาว นั้นแผลจะหายสวยมาก แต่ในคนผิวคล้ำก็พบว่าแผลหายดีเช่นกัน เป็นแผลที่นิยมที่สุดในคนไข้ฝรั่งค่ะ

-แผลใต้รักแร้ อย่างที่ทราบเป็นที่นิยมมากในคนไทย เพราะสามารถซ่อนแผลไว้ใต้รักแร้ซึงเป็นจุดซ่อนเร้นได้ การผ่าตัดผ่านแผลรักแร้มีสองแบบ แบบดั้งเดิมใช้การกระทุ้ง กับ การส่องกล้อง
ข้อเสียชัดเจนของการกระทุ้งคือหลังผ่าเจ็บมาก บวมมาก และช้ำกว่า ส่วนแบบส่องกล้องคนไข้จะเจ็บน้อยบวมน้อยกว่าฟื้นตัวเร็วกว่า การฟื้นตัวใกล้เคียงกับแผลใต้ราวนม ข้อเสียของส่องกล้องคือ ใช้อุปกรณ์พิเศษ ทำผ่าตัดนานกว่า ต้องอาศัยหมอที่ชำนาญ ส่งผลให้ราคาค่าผ่าตัดแพงกว่าค่ะ

จะเห็นว่าแผลแต่ละที่มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ดังนั้นการเลือกแผลผ่าตัดขึ้นกับการพิจารณาข้อดีข้อเสียเหล่านี้และเป็นการตัดสินใจร่วมระหว่างแพทย์และคนไข้ค่ะ

เสริมจมูกต่อปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู Rhino Surgery with Ear Cartilage Bone

Rhino Surgery with Ear Cartilage Bone 
เสริมจมูกต่อปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู


                      การใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูมาช่วยเสริมจมูก คืออีกหนึ่งเทคนิคที่ทางการแพทย์เลือกใช้ ในกรณีที่เสริมจมูกด้วยซิลิโคนจนสูงมาก และมีหนังปลายจมูกบาง จึงต้องใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูมามาช่วยเสริมรองตำแหน่งปลายจมูก เพื่อให้จมูกเข้ารูป และมีรูปร่างที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติ หรืออาจใช้แผ่นซิลิโคนเล็ก ๆ แทนได้ แต่การใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูมีข้อดี คือไม่เป็นสารแปลกปลอม สามารถใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูมาช่วยเสริมจมูกบางส่วน เช่น ปลายจมูก หรือบริเวณสันจมูก โดยเสริมในปริมาณไม่มาก และไม่ต้องการเสริมด้วยซิลิโคน  การเสริมจมูก ด้วยกระดูกอ่อนของใบหูสามารถทำได้เช่นกัน แต่ก็มีข้อจำกัดคือ ต้องมีโครงสร้างจมูกเดิมที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว และต้องการแต่งเสริมบางส่วนเท่านั้น ส่วนคนที่มีดั้งจมูกน้อย หากจะใช้การเสริมด้วยกระดูกอ่อน ก็ต้องใช้ในปริมาณที่มากเพียงพอเพื่อให้ได้รูปทรงตามต้องการ แต่กระดูกอ่อนใบหูในส่วนที่จะนำมาใช้ได้นั้น มีปริมาณจำกัด หากใช้มากกว่านั้น ก็มีโอกาสที่ใบหูจะผิดรูปได้ จึงควรใช้ซิลิโคนในการเสริมจมูก ซึ่งจะให้ผลดีและได้รูปทรงของจมูกตามต้องการมากกว่า เหมาะกับรูปหน้าของสาวเอเชียมักมีปัญหาปลายจมูกสั้น ทำให้เป็นสันและได้รูปทรงหยดน้ำยาก การต่อปลายด้วยการนำกระดูกอ่อนหลังใบหูจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด 


          การเสริมด้วยวิธีนี้ เน้นการปรับรูปทรงกระดูกอ่อนตรงปลายจมูก และการใช้กระดูกอ่อนของตนเองมาเสริมมากกว่าจะใช้ซิลิโคนที่มีความหนามากๆ ที่สำคัญคือ จำเป็นต้องใช้ความชำนาญพิเศษของแพทย์ในการประเมินรูปทรงของกระดูกและกระดูกอ่อนของจมูกอย่างละเอียด ต้องมีการวางแผนการผ่าตัดอย่างดีและใช้เครื่องมือผ่าตัดพิเศษมาช่วยเสริมให้การผ่าตัดได้ผลดีมากที่สุด การเสริมจมูกด้วยวิธีนี้ใช้เวลาในการผ่าตัดนานและพักฟื้นนาน ประมาณ 3-4 วัน ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 4 ชั่วโมง และมีขั้นตอนยุ่งยากกว่าปกติเพราะต้องตัดกระดูกอ่อนมาเพิ่ม แล้วเย็บแกนกระดูก

ข้อดีของการต่อปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู
           -  เหมาะกับคนที่มีจมูกสั้นจริงๆ หรือต้องการปลายจมูกทรงหยดน้ำ และเหมาะกับคนที่ปลายจมูกมีเนื้อน้อย ทำให้ใส่ซิลิโคนมากไม่ได้ เพราะจะทะลุ รวมถึงคนที่มีปัญหาจากการใส่ซิลิโคนแล้วทะลุมาก่อน
           -  รูปทรงจมูกดูเป็นธรรมชาติ ปลายจมูกบิดไปมาได้ โดยไม่เป็นแท่งแข็งติดกับสันจมูก
           -  รูจมูกเป็นรูปวงรี สวยเป็นธรรมชาติ
           -  ไม่มีโอกาสทะลุเหมือนการเสริมจมูกด้วย ซิลิโคน เนื่องจากกระดูกอ่อนหลังหู เป็นเนื้อเยื่อของเราเอง นอกจากนี้จมูกที่ทำศัลยกรรมยังสามารถอยู่ทนนานไปตลอด
  
การดูแลหลังการผ่าตัด
           -  ประคบเย็นทันทีบริเวณหน้าผาก และโหนกแก้ม ห้ามประคบบริเวณสันจมูก วันละ5ครั้ง ครั้งละ 15 นาที ใน 3 วันแรก หลังการผ่าตัด
           -  อาการบวมจะมาไม่มากในวันแรก แต่วันที่ 2 จะบวมกว่าวันแรก วันที่ 3-4 จะบวมกว่าวันที่ 2
           -  หลังจาก 3-4 วัน แผลจะแห้งและยุบบวมลง ดูสวยงามภายใน 1-2 เดือน
           -  ห้ามแผลโดนน้ำ 2 วัน ให้ทำความสะอาดโดยใช้ผ้านุ่มๆเช็ดทำความสะอาด
           -  หลังจาก 2 วัน สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ แล้วใช้ผ้านุ่มๆซับให้แห้ง ห้ามถูบริเวณแผล
           -  แกะ พลาสเตอร์ออกได้หลังผ่าตัด 3 - 5 วัน
           -  ควรนอนหน้าตรง หัวสูง (หมอนสูงซ้อนกัน2ใบ) เพื่อให้เลือดไหลเวียนสู่หัวใจได้สะดวก จะยุบบวมเร็วขึ้น
           -  งดใส่แว่นตา 2 อาทิตย์
           -  หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนที่จมูก 1 เดือน
           -  งดอาหารเผ็ด อาหารหมักดอง แอลกอฮอล์ บุหรี่

Monday, September 7, 2015

การเสริมจมูกแบบ Open Rhinoplasty

Open Rhinoplasty
การเสริมจมูกแบบ Open Rhinoplasty

             การเสริมจมูกแบบ Open Rhinoplasty เป็นการเสริมจมูกด้วยเทคนิคเปิด จะมีแผลที่ฐานจมูก การทำจมูกด้วยวิธีนี้มีโอกาสทิ้งร่องรอยไว้ภายนอก การทำจมูกด้วยวิธีนี้สามารถปรับแต่งจมูกได้มาก สามารถแก้จมูกสั้นให้ยาวขึ้น แก้จมูกใหญ่ให้เล็กลง แก้จมูกคดให้ตรง แก้จมูกโก่งให้เรียบ การผ่าตัดต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะด้าน การผ่าตัดเสริมจมูกแบบ Open เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน ปลายจมูกและตัดแต่งกระดูกอ่อนที่ปลายจมูก ให้ตั้งขึ้นเหมือนทรงจมูกของฝรั่ง หรือในรายที่ต้องการให้ปลายจมูกย้อยลงมา (เสริมจมูกปลายหยดน้ำ)  อย่างไรก็ตามการผ่าตัดเสริมจมูกแบบ Open ก่อให้มีแผลด้านนอกบริเวณฐานจมูกและอาจเกิดแผลเป็นได้

 

           การศัลยกรรมจมูกแบบเปิด นับเป็นการผ่าตัดใหญ่ของจมูก ทำโดยการกรีดผ่าจมูกออกในแนวดิ่ง อันจะเปิดให้เห็นแกนจมูก จากนั้นจึงทำการแยกเนื้อและผิวหนังออกจากโครงสร้างจมูก เพื่อที่แพทย์จะได้เห็นโครงสร้างหรือกายวิภาค (anatomy) ของจมูกได้อย่างชัดเจน และลงมือผ่าตัดต่อไป 

ข้อดี
     -  สามารถผ่าตัดแก้ไขรูปร่างจมูก ได้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์กว่า เนื่องจากสามารถเห็นโครงสร้างภายในได้ดีกว่า
     -  สามารถตกแต่งปลายจมูกให้สวยเนียนเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะการใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อสังเคราะห์ (Artificial dermis) เพื่อตกแต่งปลาย และป้องกันไม่ให้ผิวหนังบางหรือทะลุในอนาคตได้อย่างดี
     -  โอกาสที่จมูกจะเบี้ยวหรือเอียงน้อยกว่า

ข้อเสีย
    -  ทำยากและนานกว่าเสริมจมูกปกติ
    -  บวมช้ำนานกว่า

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรมจมูก
        -  งดการบริโภคอาหารหนึ่งคืนก่อนรับการผ่าตัด
        -  งดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลชะลอกระบวนการรักษาตัวของบาดแผล
        -  งดการสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัด ซึ่งในกรณีนี้หากคุณเป็นผู้ที่สูบบุหรี่จัดและหย่าได้ยาก แพทย์อาจแนะนำสารหรืออุปกรณ์สำหรับการหย่าบุหรี่ให้ เนื่องจากการสูบบุหรี่มีผลทำให้ออกซิเจนในเส้นเลือดน้อยลง อันเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการรักษาตัวของเนื้อเยื่อหลังการผ่าตัด และอาจทำให้เนื้อเยื่อขาดออกซิเจน เกิดเป็นเนื้อตายได้
        -  แพทย์บางรายอาจแนะนำให้ทานยาจำพวกกระตุ้นให้ร่างกายรักษาแผลหรือสเตอร์รอยด์ เพื่อลดอาการอักเสบและให้แผลหายไวขึ้น 

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
      - การอักเสบ
      - เลือดออกมาก
      - ความยากลำบากในการหายใจ
      - ผลหลังการผ่าตัดออกมาไม่เป็นอย่างที่คาด
      - การผ่าตัดเพิ่มเติมในภายหลัง
      - ผนังกั้นจมูกเกิดรูรั่ว
      - ความเสี่ยงจากการใช้ยาสลบ
      - เสียชีวิต (เป็นความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย แต่ร้ายแรงที่สุด)

Tuesday, September 1, 2015

ศัลยกรรมเสริมหน้าอก


ศัลยกรรมเสริมหน้าอก
ทรวงอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นผู้หญิงอย่างหนึ่ง ที่ชวนมองสำหรับเพศตรงข้ามเป็นอย่างดี เนื่องจากหน้าอกที่ดูดี มีขนาดพอเหมาะกับสรีระของผู้หญิง จะช่วยให้ผู้หญิงมีความมั่นใจในการแต่งตัวมากขึ้น

เพราะสมัยนี้ การแต่งกายของสาวๆ จะเน้นสรีระมากขึ้นกว่าสมัยก่อน มีทั้งสายเดี่ยว เกาะอก คอกว้างโชว์ร่องอก เป็นต้น ซึ่งหากสาว ๆที่ไม่มีสัดส่วนที่เหมาะสม เรียกได้ว่าแทบไม่มีโอกาสได้แต่งตัวแบบที่ต้องการเลย

แต่สาว ๆที่มีปัญหาหน้าอกเล็ก ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป เพราะปัจจุบันวิวัฒนาการในวงการ ศัลยกรรมตกแต่ง สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้โดยการผ่าตัดเสริมหน้าอก เพื่อเพิ่มเติมส่วนที่ขาดหายไปให้ได้ขนาดและรูปร่างที่เหมาะสมตามที่สาวๆต้องการได้ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเสริมหน้าอกนั้น จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการผ่าตัดเสริมหน้าอกซะก่อน
ซิลิโคนเสริมเต้านมที่โรงพยาบาล

ทางโรงพยาบาลเลือกใช้ซิลิโคนที่มีมาตรฐานผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยา(อ.ย.) ทั้งของอเมริกาและไทย ซึ่งผลิตได้มาตรฐานสูง เท่านั้น การใช้ซิลิโคนที่ดี ลดปัญหาซิลิโคนรั่ว นมแข็งผิดรูป ในอนาคตได้ เลือกขนาดอย่างไรดี

ก่อนผ่าตัดแพทย์จะให้คำแนะนำในการเลือกขนาด เต้านม ว่าต้องการขนาดใหญ่เท่าไร (กี่ cc.) ซึ่งมีตั้งแต่ 100-500 cc. แล้วแต่ความต้องการให้หน้าอกขนาดใหญ่ขึ้น การเลือกขนาดต้องคำนึงถึง
เนื้อนม ว่ามีมากพอที่จะรองรับซิลิโคนได้หรือไม่ ถ้าเนื้อนมน้อยใส่ซิลิโคนใหญ่ก็จะทำให้คลำเจอขอบซิลิโคนได้ ทำให้ไม่เป็นธรรมชาติ
ความกว้างของช่วงไหล่ ความสูงของผู้มาเสริม
เป้าหมาย ที่ผู้มาเสริมต้องการว่าอยากได้ใหญ่แค่ไหน
ซิลิโคนทรงไหนดี(ทรงกลมกับทรงหยดน้ำ)
ซิลิโคนทรงหยดน้ำ
ดีกว่าทรงกลมในคนที่ ทุนเดิมมีน้อย คือเนื้อนมมีน้อย กลุ่มนี้ถ้าใส่ทรงกลม จะดูไม่สวยเพราะจะเห็นชัดว่ากลมเป็นของเทียม การใส่หยดน้ำจะดูเป็นธรรมชาติกว่า ไม่ต้องนวดเลยหลังการผ่าตัด สามารถใส่ทางใต้รักแร้และใต้นม
ซิลิโคนทรงกลม
เหมาะกับคนที่มีเนื้อนมอยู่บ้าง ในปริมาณ ซีซี เท่ากันจะดูใหญ่กว่าทรงหยดน้ำ เวลาผ่าตัดนั้นทำง่ายกว่า เสร็จเร็วกว่า หลังการผ่าตัดต้องการ การดูแล เช่นนวดเต้านม จัดให้เข้าทรง
ใส่ใต้กล้ามเนื้อ หรือใต้เนื้อนม อย่างไหนจะดีกว่ากัน…?

ใส่ใต้กล้ามเนื้อดีกว่าใส่ใต้เนื้อนมตรงที่ มีโอกาสนมแข็งหรือที่เรียกว่า มีแคปซูล (Capsular Contracture) น้อยกว่า แต่ข้อเสียคือ หลังทำเจ็บกว่า จับแล้วไม่นิ่ม บางคนชอบออกกำลังกาย จะเห็นเต้านมเบี้ยวได้เวลายกแขนแผลที่ไหนดี ใต้ราวนม รักแร้ หรือรอบปานนม
ใต้ราวนม
เป็นแผลหลบอยู่ใต้ราวนมด้านข้าง ยาวประมาณ 3-4 cm. มองไม่เห็นแม้เวลานอน ถ้ามองตรงๆแผลใต้ราวนมนี้คนที่เห็นก็มีเพียงแฟนเราเท่านั้น คนอื่นๆไม่ได้เห็นหรอก ดังนั้นเวลาไปไหนมาไหน ก็ไม่ต้องระวัง เวลาเดิน หรือขึ้นรถไฟฟ้า ก็ไม่มีคนเห็น การผ่าตัดทำได้เร็วกว่า จัดรูปทรงได้ง่ายกว่า เจ็บน้อยกว่า ผ่าจากบริเวณอื่น
บริเวณรักแร้
ข้อดีคือแผลไม่ได้อยู่บริเวณนมทำให้รู้สึกมั่นใจ หลังเสริม และเวลาหายประมาณ1-3เดือน แผลมักจะสวยดีไม่ค่อยมีรอยชัดเนื่องจากอยู่บริเวณข้อพับรักแร้
แต่ข้อ เสียคือ หลังทำเจ็บแผลกว่าใต้ราวนม และในกรณีถ้าต้องแก้ไขมักแนะนำให้แก้ไขทางแผลใต้ราวนมเท่านั้น เพราะการแก้ไขทางรักแร้แม้จะทำได้ แต่ก็ได้ผลไม่ดี
บริเวณปานนม
ข้อดีของการผ่าตัดบริเวณปานนม คือสามารถยกกระชับหน้าอก ร่วมด้วย ในผู้ที่มีเต้านมหย่อนคล้อย ส่วนข้อเสียคือจะเห็นเป็นแผลผ่าตัดอยู่ที่บริเวณปานนม และอาจทำให้หัวนมชา หรือทิ่มลงผิดรูปได้ในผู้ป่วยบางราย
หลังสริมเต้านมให้นมลูกได้หรือไม่

หลังเสริมเต้านมสามารถตั้งครรภ์ได้ ให้นมลุกได้ โดยไม่มีอันตรายต่อเด็ก เนื่องจากซิลิโคนที่มีมาตรฐานจะไม่มีการรั่วซึมออกมา แล้วแทรกซึมเข้าสู่น้ำนมได้
การเสริมเต้านมทำให้เป็นมะเร็งหรือไม่

การใช้ซิลิโคนเต้านมที่มาตราฐานไม่เพิ่ม โอกาสการเกิดมะเร็งเต้านม และโรคอื่น แต่ผู้ที่เสริมเต้านมก็ไม่ควรละเลยในการตรวจเช็คมะเร็งเต้านมเป็นประจำ ควรคลำตรวจเต้านมด้วยตัวเองทุกเดือน หลังหมดประจำเดือน1สัปดาห์และทำการเอกซ์เรย์ แมมโมแกรม (Mammogram) ทุกปีเมื่ออายุมากกว่า35ปี
การผ่าตัด

การผ่าตัดทำโดยการให้ยาสลบ ผุ้ป่วยจะหลับไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด แผลผ่าตัดจะมีขนาดประมาณ 3-4 เซนติเมตร ซึ่งจะเนียนสวยเมื่อเวลาผ่านไป ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นการผ่าตัดที่เสียเลือดน้อย มีความเสี่ยงน้อยมาก
การดูและหลังการผ่าตัด
หลังผ่าตัดจะมีสายเพื่อระบายเลืดและน้ำเหลืองเล็กน้อย
ต้องค้างที่โรงพยาบาล 1 คืน
หลังผ่าตัดจะมีการปวดระบมบริเวณหน้าอกและรักแร้ ประมาณ 3-7 วัน หลังจากนั้นจะค่อยๆดีขึ้น
อาจมีรอยฟกช้ำได้ในผู้ป่วยบางราย ไม่ต้องทำแผลล้างแผลใดๆ รอยจะค่อยๆหายไปเอ
หลังผ่าตัดจะได้รับยาแก้ปวด แก้อักเสบ ลดบวม ซึ่งต้องรับประทานให้หมด
หลังกลับบ้านแพทย์จะนัดมาตรวจซ้ำ ในวันที่5หลังการผ่าตัด เพื่อดูแผลผ่าตัด ให้น้ำเสื้อชั้นในแบบไม่มีโครงเหล็กหรือบิกินนี่ผูกคอมาด้วย
แพทย์จะสอนวิธีนวดหน้าอกเป็นรายๆไปตามความเหมาะสม ส่วนใหญ่จะเริ่มนวดหลังผ่าตัดไปแล้ว2สัปดาห์
สามารถขยับตัว หรือ นอนท่าใดก็ได้
สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังผ่าตัด2สัปดาห์
ไม่ควรใส่เสื้อชั้นในแบบมีโครงเหล็ก ในช่วง1เดือนแรกหลังการผ่าตัด
หลังผ่าตัดสามารถกลับไปทำงานเบาได้ ภายในสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด และสามารถทำงานและออกกำลังกายได้เต็มที่หลังการผ่าตัด2เดือน