Tuesday, February 2, 2016

ด่วน ! บุกรวบตัวหมอเถื่อน ! “เพอร์เฟค บิวตี้” ย่านบางกะปิ ลับลอบ “ฉีดโบท็อกซ์” เข็มละ 800 บาท !

บุกรวบตัวช่างเสริมสวยที่สถานประกอบการเสริมความงามตั้งอยู่ในอาคารแฮบปี้แลนด์ เซ็นเตอร์  เขตบางกะปิ  ลักลอบฉีดสารโบท็อกซ์ ลบรอยตีนกา ฉีดยาแก้สิวให้ลูกค้าหลังร้าน  จบการศึกษาปริญญาตรี รับสารภาพทำมาหลายปี  อ้างรายได้ดี  ลงโทษ 4 ข้อหา  จำคุกรวม 14 ปี 
พร้อมทั้งสาวถึงแหล่งจำหน่ายยาผิดกฎหมายด้วย  ย้ำเตือนผู้ที่ต้องการจะฉีดโบท็อกซ์ ต้องฉีดกับแพทย์เฉพาะทาง และฉีดในสถานพยาบาลที่มีแพทย์เชี่ยวชาญประจำเท่านั้น  เนื่องจากเป็นยาอันตราย โอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ร้อยละ 3-10 รุนแรงขั้นเสียชีวิต
12656391_1275160449167140_776723227_o
บ่ายวันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2559) นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองกฎหมาย กรม สบส. นำทีมเจ้าหน้าที่กฎหมาย และ พตท.พยม เขตรกิจ สารวัตร กองกำกับการ 4 ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
บุกจับช่างเสริมสวย อายุ 32 ปี  อ้างเป็นหมอเถื่อน เปิดสถานประกอบการเสริมความงามชื่อ เพอร์เฟค บิวตี้ (Perfect  beauty)  อยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  ย่านบางกะปิ  กทม. หลังจากได้รับร้องเรียนจากประชาชนผ่านเฟซบุ๊ค มือปราบสถานพยาบาบลเถื่อน ว่าร้านแห่งนี้ ลักลอบฉีดสารโบท็อกซ์ ลดริ้วรอยตีนกาที่ใบหน้า และฉีดยาแก้สิว โดยที่ไม่ใช่แพทย์ และไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ
นายแพทย์บุญเรือง กล่าวว่า จากการสอบสวนปรากฏว่า ช่างเสริมสวยรายนี้ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และเปิดร้านเสริมสวย เขียนติดหน้าร้านบริการนวดหน้า เปิดมาแล้ว  2 ปี  และได้ลักลอบฉีดสารโบท็อกซ์ ฉีดกรดวิตามินเอรักษาสิวให้ลูกค้า รับสารภาพว่าทำมานาน 2-3 เดือน โดยฉีดโบท็อกซ์ให้ราคาเข็มละ  800 บาท  โดยให้ลูกค้านำสารโบท็อกซ์มาให้ฉีด
จากการตรวจสอบ พบของกลาง จำนวน 6 รายการ ประกอบด้วย  1)กระบอกฉีดยาอินซูลิน และเข็มที่ยังไม่ได้ใช้ประมาณ 100 กระบอก และที่ใช้แล้วบรรจุในขวดน้ำดื่มเปล่า ประมาณ 100 กระบอก  2)น้ำกลั่นผสมยาฉีด 1 กล่อง จำนวน 50 หลอด
3)ขวดบรรจุสารโบท็อกซ์ที่ไม่มีเลขทะเบียน อย. ซึ่งเปิดใช้แล้ว จำนวน 2 ขวด 4)สารกลูตาไทโอนแบบฉีด 2 กล่อง 5)ยาฉีดสลายไขมัน 1 แพ็ค จำนวน 50 ขวด และ 6)บัญชีลูกค้า 4 เล่ม ที่เหลือเป็นสำลี พร้อมแอลกอฮอลล์ ซึ่งได้ยึดไว้ทั้งหมด  และได้แจ้งข้อหาดำเนินคดี 4 ข้อหา
คือ 1)คลินิกเถื่อน  มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  2)ข้อหาหมอเถื่อน ประกอบอาชีพโดยที่ตนเองไม่ได้เรียนแพทย์และไม่ได้รับอนุญาตการประกอบโรคศิลปะ  มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  3)จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน10,000 บาท และ4)จำหน่ายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวต่อว่า โบท็อกซ์ (Botox) เป็นสารสกัดจากจุลินทรีย์ที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum ) ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมใช้ในการเสริมความงาม ลบรอยตีนกา บนใบหน้า  ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว  โดยไม่ต้องทำผ่าตัด ใช้มากเป็นอันดับ 1 ทั่วโลก  ปีละประมาณ 7 ล้านคน 
ยอดการฉีดเพิ่มขึ้นจากรอบ 16 ปี ประมาณ 240 เปอร์เซนต์ แนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เนื่องจากกระแสการโฆษณา และค่านิยมเรื่องสุขภาพและความงาม  หลังฉีดจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน สารโบทูลินัม มีคุณสมบัติโดยตรง ทำให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้  ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว เป็นอัมพาต    ยาชนิดนี้จัดเป็นยาอันตราย  มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ร้อยละ 3-10   อาการมีตั้งแต่เล็กๆน้อยๆ
เช่นปวดศีรษะ คลื่นไส้ กล้ามเนื้อเปลือกตาหย่อน จนถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรง ร้ายแรงที่สุด หากฉีดผิดขนาด  อาจทำให้เสียชีวิตได้ จากการหยุดหายใจ กระบังลมไม่ทำงาน
การฉีดต้องอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดจากแพทย์และต้องทำให้สถานที่มีเครื่องมือพร้อมรับเหตุฉุกเฉินได้   สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อควบคุมกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยประชาชน มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา
โดยกำหนดให้ผู้นำเข้า ผู้ได้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันทุกราย ส่งแผนการจัดการความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์  และให้พิมพ์ข้อความบนฉลากว่า ใช้เฉพาะสถานพยาบาลที่มีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางอยู่ประจำ และให้จำหน่ายเฉพาะสถานพยาบาลที่มีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางประจำเท่านั้น ซึ่งจากกรณีนี้จะสืบถึงแหล่งจำหน่ายโบท็อกซ์ผิดกฎหมายด้วย   เพื่อสร้างความปลอดภัยประชาชน
ทั้งนี้ เนื่องจากการเสริมความสวยงาม เป็นเรื่องของคนปกติที่ต้องการความสวย ความมั่นใจหรือแก้ไขจุดด้อยของตัวเอง   อย่างไรก็ดีอาจมีผู้ประกอบการที่เห็นแก่ได้มากกว่าการคำนึงถึงความปลอดภัยประชาชน อาจลักลอกดำเนินการผิดกฎหมาย
ขณะเดียวกันประชาชนโดยเฉพาะวัยรุ่น นักศึกษา อาจหลงเชื่อการโฆษณาได้  กรมสบส.ได้จัดกิจกรรมสวยใส ปลอดภัย มั่นใจสบส. เพื่อรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการเสริมความงาม และภัยอันตรายของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ ภัยหมอเถื่อน สถานพยาบาลเถื่อน
โดยจัดมาแล้ว 3 ครั้ง  ครั้งที่ 4 จะจัดในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ. 2559)  ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ปทุมธานี เวลา 13.00-15.30 น. และครั้งที่ 5 จัดที่มหาหอการค้าไทย วันที่ 10 ก.พ. 2559
12656007_1275160479167137_1807236944_o